การทดแทนฟันที่สูญเสียไป เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้มีการบดเคี้ยวอาหารได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทดแทนช่องว่างทำให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และการทดแทนฟันบางชนิดก็ยังสามารถคงรูปของกระดูกขากรรไกรและรูปหน้าไม่ให้เกิดการยุบตัว
-
- ฐานโลหะ เป็นฐานฟันปลอมที่มีความแข็งแรงสามารถออกแบบให้ส่วนฐานปิดทับเนื้อเยื่อเหงือกหรือเพดานปากให้บางและน้อยที่สุดได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการออกเสียงพูดไม่ชัดหรือการปิดพื้นที่สัมผัสอาหารในขณะรับประทาน แต่พื้นผิวบางส่วนที่รองรับฟันปลอมก็จำเป็นต้องใช้วัสดุชนิดอะคริลิกร่วมด้วย
- ฐานอะคริลิก มีลักษณะคล้ายพลาสติกชนิดแข็ง จำเป็นต้องออกแบบให้ส่วนฐานมีความหนาอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร และปิดคลุมเนื้อเยื่อเหงือกหรือเพดานปากให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่ออ่อน มีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าชนิดอื่นๆและมีข้อเสียจากรูพรุน ของอะคริลิกที่ทำให้เกิดกลิ่นหรือคราบฝังลึกลงในผิวอะคริลิกได้
- ฐานไวนิล (Valplast) เป็นฐานฟันปลอมที่มีความยืดหยุ่นสูงน้ำหนักเบาไม่แตกหักได้ง่ายเหมือนชนิดอื่นๆแต่ไม่ควรใช้ฐานฟันปลอมชนิดนี้รองรับซี่ฟันปลอมหลายซี่เพื่อรับแรงในการบดเคี้ยวเพราะความยืดหยุ่นของฐานที่มากเกินไปจึงทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวลดลงและอาจส่งผลเสียต่อข้อต่อขากรรไกรที่ทำให้เกิดการเคลื่อนหรือเสื่อมได้
- หลังการถอนฟันควรรอให้แผลหายดีประมาณ 2 เดือน จึงเริ่มต้นพิมพ์ปากเพื่อทำฟันปลอม ในกรณีที่จำเป็นต้องใส่ฟันปลอมทันทีหลังถอน ก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการเสริมฐานฟันปลอม หลังจากครบกำหนดการหายของแผล 2 เดือน
- ทันตแพทย์ตรวจสุขภาพฟันและเหงือกทั้งหมด เพื่อวางแผนการรักษาก่อนการใส่ฟันปลอม หากสุขภาพฟันและเหงือกไม่แข็งแรง ประสิทธิภาพของฟันปลอมจะลดลงไป และฟันปลอมอาจใช้งานได้ไม่นาน เช่น กรณีฟันผุในตำแหน่งติดกับขอบเขตของฟันปลอม เมื่อทำการรักษาโดยการอุดฟันภายหลังการใส่ฟันปลอม โอกาสที่วัสดุอุดไม่แนบกับฟันปลอมจะมีได้สูง ซึ่งจะมีผลทำให้เศษอาหารติดได้ง่าย
- การพิมพ์ปากเพื่อทำแบบจำลองฟันเพื่อส่งแลปทันตกรรมทำชิ้นงานฟันปลอม โดยใช้เวลาเพียง 1-5 วันในกรณีที่มีฟันธรรมชาติหลายซี่แต่ถ้ามีฟันธรรมชาติเหลือน้อยซี่อาจใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 10-20 วัน โดยจำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอนดังนี้
- 3.1 การพิมพ์ปากด้วยถาดพิมพ์เฉพาะบุคคล โดยใช้วัสดุพิมพ์ปากที่คัดลอกรายละเอียดได้ดีขึ้น เพื่อจำลองรายละเอียดของสภาพสันเหงือกให้ใกล้เคียงกับสภาพสันเหงือกธรรมชาติให้มากที่สุด
- 3.2 การลองขี้ผึ้ง เป็นการวัดระดับแนวฟันให้สมมาตรกับโครงสร้างใบหน้าและฟันคู่สบ
- 3.3 การลองฟัน เป็นการตรวจสอบสีฟัน แนวฟัน ทั้งในแง่ความสวยงาม และการสบฟันก่อนการทำเป็นชิ้นงานจริง
- การใส่ฟันปลอม ทันตแพทย์จะต้องตรวจสอบและแก้ไขจุดกดเจ็บบนเนื้อเยื่อเหงือก จุดสบสูงจากการสบฟัน และความกระชับของฟันปลอมก่อนการส่งมอบฟันปลอมให้ผู้ป่วย
- ทันตแพทย์แนะนำวิธีการใส่เข้า – ถอดออก และการดูแลทำความสะอาดฟันปลอม
การทดแทนฟันที่สูญเสียไป
- ฟันปลอมชนิดติดแน่น
เป็นการใช้ชิ้นงานทางทันตกรรมที่ลอกเลียนรายละเอียดรูปร่างได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ยึดติดลงบนฟันหลักที่อยู่ในตำแหน่งติดกับช่องว่าง(สะพานฟัน) หรือยึดติดลงบนกระดูกขากรรไกรในตำแหน่งช่องว่างนั้นๆ (การฝังรากเทียม) ซึ่งฟันปลอมในกลุ่มนี้ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้
อ่านสะพานฟันเพิ่มเติม
อ่านการฝังรากเทียมเพิ่มเติม - ฟันปลอมชนิดถอดได้
เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ราคาไม่สูงนัก สามารถถอดออกมาทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้ แต่ประสิทธิภาพการใช้งานแตกต่างจากฟันธรรมชาติพอสมควร ผู้รับการรักษาจำเป็นต้องฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อแก้มและลิ้นให้คุ้นเคยกับการใช้ฟันปลอมชนิดนี้ เพื่อฝึกการพูดออกเสียง และการบดเคี้ยวให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ